Jump to content

Chiangmai Raw Larb Recipe


Recommended Posts

Posted

Hi can anyone give me a recipe on how to make Chiang Mai Larb or Larb neur? I dont know what spices to use for this raw larb. thank you

Posted

หมูเนื้อแดงบด 1 กก.

- ตับหมู 3 ขีด

- ไส้ตัน 4 ขีด

- มะเขือกรอบ 2 ลูก(เอาลูกแก่ ๆ)

- เลือดหมูสด 2 ช้อนโต๊ะ

- กระเพาะหมู 1 ลูก

- สามชั้น 2 เส้น

- หอมแดงซอยแล้วเจียวจนเหลือง 1 ถ้วย

- พริกขี้หนูแห้งทอด 20 เม็ด

เครื่องแกง:-

- พริกแห้งบางช้าง 15 เม็ด

- หอมแดง 10 หัว

- กระเทียมกลีบโต 20 กลีบ

- ข่า 3 แว่น

- กะปิ 1 ช้อนชา

- มะแหลบ 2 ช้อนชา

- มะแขว่น 2 ช้อนชา

- เครื่องเทศ 2 ช้อนชา

- น้ำปลาใช้ปรุงรส

ผักแกล้ม:-

ผักไผ่, สะระแหน่, ถั่วฝักยาว, ผักชีฝรั่ง, กะหล่ำปลี, มะเขือกรอบ, ต้มหอมผักชี (หั่นฝอยสำหรับโรยหน้าลาบ)

วิธีทำ:-

1. เครื่องแกง เผาพริก หอม กระเทียม กะปิแล้วเอาส่วนผสมของเครื่องแกงทั่งหมดโขลกให้เข้ากัน

2. ต้มตับ กระเพาะ สามชั้น ไส้ ให้สุก หั่นเป็นชิ้น ๆ เวลาต้มเครื่องในพวกนี้ เอามะเขือกรอบ 2 ลูกลงไปต้มด้วย (เก็บน้ำต้มเอาไว้)

3.หมูบดวางลงบนเขียงปอกเปลือกมะเขือที่ต้มออกแล้วเอามาสับรวมกับหมูให้เข้ากัน(เป็นเคล็ดที่จะทำให้หมูนิ่ม)ใส่เลือดหมูลงสับให้เข้ากัน (เลือดหมูทำให้สีของลาบเข้มดี)

4. เอาเครื่องแกงที่โขลกในข้อ 1 ใส่ลงในกะละมัง นำหมูในข้อ 3 ใส่ลงไปใช้ทัพพีคลุก ให้เข้ากัน

5. นำเครื่องปรุงในข้อ 4 ลงขั่วในกระทะ(ไม่ใส่น้ำมัน)จนสุกหากน้ำน้อยให้เติมน้ำต้มหมูลง ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างเดียว จากนั้นยกลง ใส่เครื่องใน ในข้อ 2 คลุกเคล้าให้เข้ากัน

will translate in english tomorrow .. :o

Posted

I can't read the Thai on my machine, but make sure the first ingrediant is very, very fresh meat. Fresh laap dip, that is raw laap, is usually only eaten when we slaughter a family pig that morning for a family gathering. It requires fresh meat and of course equally fresh blood. And less well known, it requires a pretty darn strong forearm to mince away for nearly an hour. Preparing laap is a very good workout.

There are pre-packaged bags of spices sold at just about any rural store in Chiang Mai for making laap, I just can't recall the name, perhaps kruang laap, not be to confused with kruang nai, the assortment of cow organs that make up about half the meat dish.

Although not for everyone, laap dip remains the signature dish of Lanna culture.

Posted

actaully i dont wanna post much..but i still owe you about "larb dip" recipe ..well if you mom can translate for you

anyhow, i try to search more about the recipe..and i found one from Lanna website

ชิ้นลาบ (อ่าน "จิ๊นลาบ")

ชิ้นลาบ คือ ส่วนต่าง ๆ ของเนื้อสัตว์สำหรับทำลาบ อันประกอบด้วย เนื้อแดง เลือดเครื่องใน ซึ่งมีลักษณะดังนี้

๑. เนื้อแดง เป็นเนื้อแดงล้วน ๆ ไม่ติดมันได้แก่ เนื้อสันใน,เนื้อสันสะโพก เรียกกันว่า "ชิ้นบ่าโอ"

๒. เลือด เป็นเลือดสด ซึ่งในลาบหมูนั้นนิยมใช้เลือดที่ตกค้างในโพรงช่องท้อง หากเป็นลาบวัวหรือลาบควายนั้นนิยมใช้เลือดข้น ยิ่งข้นเป็นวุ้นก็ยิ่งดี

๓. เครื่องในที่เรียกกันว่า "ครัวใน" ถ้าเป็นนลาบวัว ลาบควาย จะใช้น้ำดี น้ำเพี้ย (กากอาหารที่ค้างในกระเพาะวัวหรือควาย) และกระเพาะอาหาร ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะตามลักษณะของกระเพาะอาหารส่วนที่แตกต่างกันออกไปได้แก่ ย่อ หรือ ผ้าขี้ริ้ว ซึ่งบางท้องถิ่นเรียก ผ้าอ้อม (เป็นแผ่นบางพับไปมา) คันนา ซึ่งทางอีสานเรียก คันแทนา (เป็นลอนยกขึ้นมาคล้ายคันนา) ตาบ่าหนัด ซึ่งภาคกลางเรียก ดอกจอก (เป็นตา ๆ คล้ายสับปะรดหรือดอกจอก) แต่ถ้าเป็นลาบหมูนิยมใช้เครื่องในเกือบทุกชนิดและอาจมีหนังหมูและมันแข็ง โดยนิยมมันตรงคอต่อสะบักเรียกว่า "มันหงาน" เพราะเป็นมันที่แข็งกรอบอร่อยน้ำพริกลาบ

น้ำพริกลาบ คือ เครื่องปรุงลาบ มีส่วนประกอบดังนี้

๑. ส่วนประกอบทั่วไป ได้แก่

พริกแห้ง , หอมเทียมหรือหอมขาว (กระเทียม) , หอมบั่วหรือหอมแดง (หัวหอม) , เกลือ

๒. ส่วนประกอบพิเศษ เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม มีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นคาวเลือดสด

แก่นผักป้อม(ลูกผักชี), พริกน้อย(พริกไทยดำ), ดีปลี, บ่าแขว่น (ลูกละมาด,กำจัด), บ่าแหล็บ, จักไค(ตะไคร้), ข่า , หมากอี้(เร่ว) , เทียนแกลบ(ยี่ร่า), ดอกจันทน์, กระวาน

ขั้นตอนการทำลาบ

๑. การเตรียมชิ้นลาบ

นำเนื้อมาสับให้ละเอียดโดยคลุกเคล้ากับเลือด ทั้งนี้หากสับไม่ละเอียดและติดกันเป็นพวงเรียก "พวงสะบันงา" (พวงดอกกระดังงา) เครื่องในต้มให้สุกแล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็น แล้วค่อยนำมาหั่นซอย ซึ่งบางคนอาจหั่นเครื่องในดิบผสมกับลาบโดยตรงก็ได้ สำหรับลาบหมี่เครื่องในนำไปเจียวกรอบเตรียมไว้ หากต้องการลาบเหนียวอาจใส่มะเขือขื่นเผา ,เปลือกต้นลำใย, เปลือกต้นเพกา หรือเปลือกต้นมะกอก ผสมลงไปกับเนื้อ และหากเนื้อค้างคืนมีกลิ่นอาจสับยอดฝรั่งลงไปช่วยดับกลิ่นด้วย

๒. การเตรียมน้ำพริกลาบ

นำหอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ไปหมกในขี้เถ้าร้อนหรือถ่านไฟอ่อน ๆ ให้สุก นำเครื่องเทศต่าง ๆ ไปคั่วให้มีกลิ่นหอม ส่วนพริกแห้งนั้นนำไปผิงไฟให้เกรียม นำเครื่องปรุงทุกอย่างตำในครกรวมกันจนละเอียด ก็จะได้น้ำพริกลาบ ซึ่งบางคนเรียกว่า "น้ำพริกดำ" เพราะมีสีดำของพริกแห้งไหม้เกรียมนั่นเอง ปัจจุบันมีน้ำพริกลาบที่ทำสำเร็จแล้วจำหน่ายทั่วไป ตามแผงจำหน่ายเนื้อสัตว์ในตลาดหรือตามร้านขายของชำในหมู่บ้านทั่วไป

๓. การปรุงลาบ

การปรุงลาบ บางครั้งเรียก "ยำลาบ" หรือ "โสะลาบ" เป็นการผสมน้ำพริกลาบและชิ้นลาบที่เตรียมไว้ทุกอย่างมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน โดยการนำเอาน้ำพริกลาบมาละลายในน้ำต้มเครื่องในจนเข้ากันดี(น้ำต้มเครื่องในใช้ปริมาณมาณเล็กน้อย ถ้าใส่มากลาบจะแฉะ) แล้วนำเนื้อ เครื่องใน ตลอดจนผักบางชนิด ได้แก ผักชี ผักชีฝรั่ง และผักไผ่ หั่นฝอยลงไปด้วย(บางครั้งอาจสับผสมลงไปตั้งแต่ขั้นตอนสับเนื้อ) ใช้ทับพีคนโดยกดให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันได้ดี ซึ่งบางคนอาจใช้มือขยำก็ได้ แล้วเติมเครื่องปรุงให้มีรสตามที่ต้องการ สำหรับลาบวัวและลาบควายนิยมให้มีรสขม โดยการใช้น้ำเพี้ยละลายน้ำพริกลาบ แทนน้ำต้มเครื่องในและอาจเติมน้ำดีลงไปด้วยก็ได้

Posted
There are pre-packaged bags of spices sold at just about any rural store in Chiang Mai for making laap, I just can't recall the name, perhaps kruang laap, not be to confused with kruang nai, the assortment of cow organs that make up about half the meat dish.

I believe you mean phrik laap / พริกลาบ

Posted

No you didn’t get it wrong at all.

Hey there are 700 million species of life on Earth and only 1 is “dumb” enough to prepare and consume “cooked” food.

Think about that?

What other animals get all the diseases man gets who eat a real natural diet?

None!

Raw animal products (from healthy, naturally raised animals only) are very healthy and part of the reason the SE Asian people are so well developed and healthy at least until recently.

Unfortunately now though they are throwing away their traditional farming practices and raising animals like the rest of the world in deplorable toxic conditions relaying on many poisonous chemicals to do what they did naturally for many thousands of years, 100% organically.

100% all raw food diets are taking off like wild fire now in the West. Do a web search and get informed man!

Time to wake up folks before “our” baby is completely thrown out with the bath water.

  • 10 months later...
Posted
หมูเนื้อแดงบด 1 กก.

- ตับหมู 3 ขีด

- ไส้ตัน 4 ขีด

- มะเขือกรอบ 2 ลูก(เอาลูกแก่ ๆ)

- เลือดหมูสด 2 ช้อนโต๊ะ

- กระเพาะหมู 1 ลูก

- สามชั้น 2 เส้น

- หอมแดงซอยแล้วเจียวจนเหลือง 1 ถ้วย

- พริกขี้หนูแห้งทอด 20 เม็ด

เครื่องแกง:-

- พริกแห้งบางช้าง 15 เม็ด

- หอมแดง 10 หัว

- กระเทียมกลีบโต 20 กลีบ

- ข่า 3 แว่น

- กะปิ 1 ช้อนชา

- มะแหลบ 2 ช้อนชา

- มะแขว่น 2 ช้อนชา

- เครื่องเทศ 2 ช้อนชา

- น้ำปลาใช้ปรุงรส

ผักแกล้ม:-

ผักไผ่, สะระแหน่, ถั่วฝักยาว, ผักชีฝรั่ง, กะหล่ำปลี, มะเขือกรอบ, ต้มหอมผักชี (หั่นฝอยสำหรับโรยหน้าลาบ)

วิธีทำ:-

1. เครื่องแกง เผาพริก หอม กระเทียม กะปิแล้วเอาส่วนผสมของเครื่องแกงทั่งหมดโขลกให้เข้ากัน

2. ต้มตับ กระเพาะ สามชั้น ไส้ ให้สุก หั่นเป็นชิ้น ๆ เวลาต้มเครื่องในพวกนี้ เอามะเขือกรอบ 2 ลูกลงไปต้มด้วย (เก็บน้ำต้มเอาไว้)

3.หมูบดวางลงบนเขียงปอกเปลือกมะเขือที่ต้มออกแล้วเอามาสับรวมกับหมูให้เข้ากัน(เป็นเคล็ดที่จะทำให้หมูนิ่ม)ใส่เลือดหมูลงสับให้เข้ากัน (เลือดหมูทำให้สีของลาบเข้มดี)

4. เอาเครื่องแกงที่โขลกในข้อ 1 ใส่ลงในกะละมัง นำหมูในข้อ 3 ใส่ลงไปใช้ทัพพีคลุก ให้เข้ากัน

5. นำเครื่องปรุงในข้อ 4 ลงขั่วในกระทะ(ไม่ใส่น้ำมัน)จนสุกหากน้ำน้อยให้เติมน้ำต้มหมูลง ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างเดียว จากนั้นยกลง ใส่เครื่องใน ในข้อ 2 คลุกเคล้าให้เข้ากัน

will translate in english tomorrow .. :huh:

wow are you from thailand or US. plus you know how to cook to ######

  • 4 weeks later...
Posted
No you didn’t get it wrong at all.

Hey there are 700 million species of life on Earth and only 1 is “dumb” enough to prepare and consume “cooked” food.

Think about that?

What other animals get all the diseases man gets who eat a real natural diet?

None!

Raw animal products (from healthy, naturally raised animals only) are very healthy and part of the reason the SE Asian people are so well developed and healthy at least until recently.

Unfortunately now though they are throwing away their traditional farming practices and raising animals like the rest of the world in deplorable toxic conditions relaying on many poisonous chemicals to do what they did naturally for many thousands of years, 100% organically.

100% all raw food diets are taking off like wild fire now in the West. Do a web search and get informed man!

Time to wake up folks before “our” baby is completely thrown out with the bath water.

"larb dip" is really good! i had some in Chiangmai and i must say that it goes very well with kao niaow and a bottle of Chang.

having spent time in Isan, i also enjoy regular larb. but after eating the raw version, i think i'd rather blood in my food. hahaha.

c'mon, i hear of you farangs going to the diner to order steak RARE... with blood ooozing out everytime you poke your knife and fork in the dead cow.

same thing my friend.

then there's Sushi and Sashimi.

so what's the diff? we won't eat things that will harm us. our ancestors already made sure that eating raw food won't kill us. otherwise, do you think we will still be here?

go on. eat. experience. and if you like what you are eating... and you're eating too much of it... it's time to DIET. ahahha

Create an account or sign in to comment

You need to be a member in order to leave a comment

Create an account

Sign up for a new account in our community. It's easy!

Register a new account

Sign in

Already have an account? Sign in here.

Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.



×
×
  • Create New...