Jump to content

Blocked From Trt's Website - Is It Just Me?


danone

Recommended Posts

wanted to check on the latest TRT news on their website:

http://www.thairakthai.or.th/

but Error 403.6 showed up:

"HTTP Error 403

403.6 Forbidden: IP address rejected

This error is caused when the server has a list of IP addresses that are not allowed to access the site, and the IP address you are using is in this list.

Please contact the Web server's administrator if the problem persists."

am on a true IP address ...

should I really contact the administrator me kindly wonders ... reason for the blocking? too much true hate mail? I mean hate mail from true? ... you know what I mean.

and no, I do not mind this kind of censorship.

Edited by danone
Link to comment
Share on other sites

There are worlds indeed between True and Ais (former Thaksin's company, now sold to Singapore), that means True is a no competitor - Ais is four times bigger. CP, True's mother company is a real Thaksin's friend.

Link to comment
Share on other sites

Same here, blank page and the only code (source) is the following. Either hacked, dismantled or being rebuilt (unlikely) :o

<script language="vbscript">

<!--

location.href = "index.asp"

-->

</script>

Link to comment
Share on other sites

I can see the contents of this site and found something very interesting. I hope what I post below will not against tv rules, it's actually on the thai paper anyway. For those who can't read Thai, you will have to drag someone who can interpret for you. It's about Finland stuff.

ภูมิธรรม เวชยชัย "ฟินแลนด์ที่ผมประทับใจที่สุดและอยากลืมที่สุด"

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับ วันที่ 4 มิถุนายน 2549 คอลัมน์ ห้องรับแขก

มกราคม 2540 เหนือท้องฟ้าของประเทศฟินแลนด์ หิมะหล่นโปรยปรายลงมาราวกับปุยนุ่น ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างจนแลดูขาวโพลนสะอาดตา บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก นับเป็นคืนวันสุดหรรษาของเหล่ากระทาชายที่เดินทางไกลจากเมืองไทยยังประทับใจไม่รู้ลืม

นี่คือภาพความทรงจำที่ “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังติดตาตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ เขามีความสุขทุกครั้งเมื่อหลับตานึกถึงภาพเก่าๆ และยังจดจำได้ดีแม้จะล่วงเลยมาเกือบสิบปีแล้วก็ตาม

ทว่าในวันที่เขาและชาวคณะกำลังเล่นหิมะกัน อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินราวกับเด็กวัยซน เขาไม่เคยคิดเลยว่าอีกสิบปีต่อมาจะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า เป็นการซ่องสุมของกลุ่มขบวนการ ผู้สมคบคิดทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยไทยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข!

ข่าวลืออื้อฉาวนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมา โดยเรียกกันว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” หรือแผนยุทธศาสตร์โค่นล้มระบอบการปกครองของไทย พร้อมกับระบุถึงตัวผู้สมรู้ร่วมคิดว่าเป็นบุคคลระดับแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย อดีตคนเดือนตุลา ซึ่งหมายถึงตัวนายภูมิธรรม รวมทั้งคณะผู้ติดสอยห้อยตามอีกจำนวนหนึ่ง

ภูมิธรรม กล่าวด้วยอารมณ์ตัดพ้อเมื่อหวนรำลึกถึงคืนวันอันสุขสันต์ในครั้งนั้นว่า “ฟินแลนด์คือประเทศที่ผมประทับใจที่สุดและอยากลืมที่สุด”

เล่นสเกต-เซาน่า-ช็อปปิ้ง สนุกสุดเหวี่ยงที่ฟินแลนด์

ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวแต่หนหลัง ภูมิธรรม เล่าให้ฟังว่า ที่จริงแล้วการไปเยือนฟินแลนด์มิใช่เรื่องปิดบังหรือมีความลับแต่อย่างใด โดยนับตั้งแต่เขาได้เข้ามาช่วยงานการเมืองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ราวปี 2537 อันเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังตัดสินใจลงเล่นการเมืองเต็มตัว โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสังกัดพรรคพลังธรรม ภูมิธรรมได้ขันอาสามาช่วยงานการเมืองในฐานะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสนอความคิดเห็นต่างๆ โดยที่ไม่ขอรับเงินเดือนตอบแทนแต่อย่างใด

“ท่านนายกฯ ก็เอ่ยปากอยู่หลายครั้งว่าในเมื่อมาช่วยงานแล้วไม่เอาเงินเดือน ถ้าอย่างนั้นจะพาไปเที่ยวก็แล้วกัน กระทั่งปลายปี 2539 ท่านนายกฯ ลาออกจากพรรคพลังธรรม จึงถือโอกาสชวนกันไปเที่ยวเป็นเวลา 7 วัน 3 ประเทศ คือ ฟินแลนด์ สวีเดน และเยอรมนี”

อย่างไรก็ตาม แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะว่างเว้นจากงานการเมือง แต่ขณะนั้นก็ยังเป็นผู้บริหารของบริษัท ชินวัตร จึงถือโอกาสไปเจรจาทางธุรกิจกับทั้ง 3 ประเทศ คือที่ฟินแลนด์พบกับโนเกีย ไปสวีเดนคุยกับอีริคสัน และไปเยอรมนีเจอกับซีเมนส์

ภูมิธรรม ยืนยันว่า ปัญหาสำคัญเรื่องนี้ก็คือ มิได้มีการประชุมลับอย่างที่เข้าใจกัน เพราะมีผู้ร่วมคณะเพียงแค่ 4 คน คือ เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ นักแปลหนังสือ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นนักศึกษา และ วริษฐ์ มงคลศรี ซึ่งเป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง อดีตกรรมการศูนย์นิสิตฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

“ในช่วงกลางวันท่านก็ไปดูงานของท่าน ส่วนพวกเราเที่ยวกันอย่างเดียว โดยคนที่พาไปคือ พล.ต.ท.ม.ล.ฉลองลาภ ทวีวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสมัยนั้น มีหน้าที่ดูแลด้านการจราจร อีกท่านคือ ม.ล.บวรนรเทพ เทวกุล ซึ่งเป็นผู้ติดตามนายกฯ ในขณะนั้น ท่านเป็นคนพาพวกผมไปกิน ไปเที่ยว ไปดูงาน ไปเล่นไบค์สกีบนทะเลสาบน้ำแข็ง”

ภูมิธรรม บอกอีกว่า การไปฟินแลนด์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง แต่เป็นเรื่องที่สนุกสนาน และมีกิจกรรมตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นตกปลา เล่นสเกต ช็อปปิ้ง และเซาน่า

“ถ้าจะให้ดีเขาบอกว่าหลังจากเซาน่าร้อนๆ จะต้องวิ่งแก้ผ้าออกไปคลุกหิมะแล้วเลือดลมมันจะดี แต่ผมไม่เชื่อก็เลยไม่ได้ทำ ส่วนคนอื่นก็ไม่กล้าทำ นอกจากนี้พวกผมก็ได้กระเป๋าสตางค์มาคนละใบ เป็นกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ครบรอบ 100 ปี ตอนนี้เก่าแล้วก็ยังเก็บไว้อยู่ ท่านนายกฯ เองก็สนุกสนานมาก ในชีวิตผมเคยไปสแกนดิเนเวียก็แค่ครั้งเดียวนี่แหละ ฉะนั้น ปฏิญญาฟินแลนด์ก็คือปฏิญญาเลอะเทอะ”

ปฏิญญาข้อ 4 ตลกร้ายที่ขำไม่ออก

ข้อกล่าวหาร้ายแรงเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ถูกตีแผ่ขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุ โดยมีการกล่าวอ้างว่าการไปเยือนประเทศฟินแลนด์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เป็นการประชุมลับสุดยอดเพื่อยกร่างปฏิญญาฟินแลนด์ ฉบับ 2542 โดยหมายจะปฏิวัติระบอบการเมืองการปกครองของไทยครั้งใหญ่

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกพาดพิง ภูมิธรรมถึงกับงัดหลักฐานวีซ่าออกมาพิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ซึ่งในเอกสารระบุว่า วันที่ 7 มกราคม 2540 คือวันที่เขายื่นเรื่องขอวีซ่าไปประเทศฟินแลนด์ ฉะนั้นความจริงในข้อนี้จึงขัดแย้งกับข้อกล่าวหาเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ 2542

“ผมเป็นเพียงเหยื่อที่ถูกจับโยงเอามาเป็นตัวละคร เพื่อจะทำลายท่านนายกฯ ทักษิณ หรือระบอบทักษิณ" เขากล่าว

นอกจากนี้ ยังมีอีกข้อกล่าวหาที่ว่า การเดินทางในทริปนั้นนายภูมิธรรมได้ขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าเรือระหว่างที่กำลังแล่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ราวกับกัปตันเรือไททานิก แล้วกู่ก้องร้องตะโกนว่าจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน นับเป็นเรื่องตลกร้ายที่ภูมิธรรมถึงกับขำไม่ออก เพราะวันที่เขาไปเยือนฟินแลนด์มีแต่ทะเลน้ำแข็ง กระทั่งเครื่องบินจะลงจอดยังแทบมองไม่เห็นรันเวย์ เขาจึงมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่การแต่งนิยายลวงโลก

แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ภูมิธรรมรู้สึกรับไม่ได้และนับเป็นประเด็นร้ายแรงที่สุดก็คือ การที่มีผู้ประดิษฐ์ทฤษฎีบันได 5 ขั้น ของปฏิญญาฟินแลนด์ เพื่อโจมตีระบอบทักษิณ ได้แก่ 1.สร้างระบบการเมืองเป็นพรรคเดียว 2. ทำลายความเข้มแข็งแบบเก่าของระบบราชการให้รับใช้ระบบการเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข 3. แปลงสินทรัพย์ของรัฐให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี 4.ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแต่เพียงสัญลักษณ์ให้มากที่สุด และ 5.สร้างระบบพรรคการเมืองแบบศูนย์รวมให้เป็นพรรคของกรรมการ แต่แฝงอยู่ในเสื้อคลุมเปลือกนอกที่หลอกลวงว่าเป็นพรรคมวลชน ซึ่งประเด็นสำคัญอย่างยิ่งคือข้อ 4 ที่สังคมไทยไม่อาจยอมรับได้

"การกุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาจะต้องมีข้อเท็จจริง แต่เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่ผู้ถูกกล่าวหามีโทษร้ายแรงถึงตายได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คงตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่ยุติธรรม การใช้วิธีการแบบนี้มาทำลายคน โดยกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีขึ้นขั้นที่จะทำลายสถาบัน เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ผมรับสภาพแบบนี้ไม่ได้ ถ้าอยากจะวิพากษ์วิจารณ์หรือกล่าวหาในเรื่องใดก็ตาม จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง แล้วผมจะยอมรับในสิ่งนั้นได้" ภูมิธรรมระบาย

ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า เขาก็เป็นคนหนึ่งที่จงรักภักดี เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไปที่ยึดถือพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นของสูงสำหรับสังคมไทยที่จะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแตะต้อง และให้ความจงรักภักดีมาตลอด ฉะนั้นเขาถือว่าการกุข่าวเรื่องนี้เป็นการกระทำที่น่าอับอายและไร้จรรยาบรรณที่สุด

"การที่เราเรียกร้องถามหาจริยธรรมของคนอื่น แต่กลับใช้กระบวนการและวิธีคิดในการเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จขึ้นมาแล้วปรักปรำทำร้ายกัน ถือว่าไม่มีจริยธรรม อย่างน้อยที่สุดต้องมีหิริโอตตัปปะบ้าง มีความเกรงกลัว ละอายต่อบาปบ้าง"

เขาคิดว่า ผู้ที่หยิบเอาเบื้องสูงมาเอ่ยอ้างต้องถือว่าไม่จงรักภักดี ถือเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และคนผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบ ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ภูมิธรรมรู้สึกเสียใจไม่น้อยกว่ากันก็คือ บุคคลที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ล้วนแต่เป็นบุคคลที่เขาเคารพนับถือยิ่งนัก

"เรื่องฟินแลนด์เป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างเสียใจ เพราะอย่างน้อยคนที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา 2-3 คน เป็นบุคคลที่ผมเคยเคารพนับถือทั้งสิ้น อ.ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์สมัยที่ผมเรียนปริญญาโท อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ เป็นบุคคลที่ผมเคยร่วมงานด้วยในยุคเผยแพร่ประชาธิปไตย ปี 2516 ส่วนคุณโสภณ สุภาพงษ์ เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคยเคารพนับถือสมัยที่ทำงานเอ็นจีโอ แล้วจู่ ๆ ก็เปิดเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นการหยิบยกที่ไร้พื้นฐานข้อเท็จจริง"

หากกล่าวถึงเกมการต่อสู้ทางการเมือง ภูมิธรรมยอมรับได้หากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐบาลที่ผิดหรือถูก เพราะถือเป็นความคิดเห็นที่อาจมีมุมมองแตกต่างกันได้ โดยสาธารณชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง หรือหากต้องการกล่าวหาก็ควรจะว่าถึงเรื่องคอร์รัปชัน โกงกิน หรือเรื่องการบริหารงานผิดพลาด แล้วเอาข้อมูลมาว่ากันตามเนื้อผ้า แต่วิธีการทำลายฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้เป็นการไปรับฟังคนอื่นพูดแล้วเอามาปะติดปะต่อจนกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ

"ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่รัฐบาลนี้ได้ทำไป เช่น แนวคิดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปฏิรูประบบราชการ หรือนโยบายต่าง ๆ ในระดับรากหญ้า ซึ่งถ้าไม่ยอมรับในสิ่งที่ท่านนายกฯ ทำอยู่ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า นโยบายที่ท่านนายกฯ ทำไม่เหมาะสมกับสังคม แต่กลับหยิบเอาเรื่องสถาบันขึ้นมากล่าวหา ผมว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ยกตัวอย่างกรณีที่หาว่า ผมเกี่ยวข้องกับมนุษยดอตคอม (manussaya.com) ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย เพื่อนฝูงก็รู้ ผมใช้โทรศัพท์มือถือเป็นแค่โทร.เข้ากับโทร.ออกแค่นั้นเอง ส่วนคอมพิวเตอร์ผมก็ให้คนอื่นเปิดให้ ผมไม่เคยทำเป็นเลย แล้วจู่ ๆ มากล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลังไอ้เว็บไซต์บ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ได้ยังไง"

เขาเล่าว่า โดยปกติในเกมการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบทางการเมือง เขามักจะหลีกเลี่ยงการตอบโต้ เพราะถือเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป แต่การสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำลายกันนับเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก ทำให้สังคมยิ่งแตกแยก เพราะอาจเป็นการซ้ำรอยเดิมเมื่อ 30 ปีก่อน คือเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519

"การสร้างเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาก็เหมือนกับกล่าวหาว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีอุโมงค์ลับเป็นที่สะสมอาวุธของพวกญวนหรือบอกว่ามีนักศึกษาญวนอยู่เต็มมหาวิทยาลัย จนกระทั้งทำให้นักศึกษารัฐศาสตร์จุฬาฯ ปี 2 รุ่นน้องของผมถูกจับแขวนคอและถูกตีตายที่ต้นมะขามสนามหลวง"

Link to comment
Share on other sites

I used each of the links noted in the posts above and was able to access the site without problem.

I use T.O.T. (and windoze IE, not that it really matters what browser you use).

From what I've heard recently, the ISP's (TT&T, T.o.T., ect) get a list of sites to block. Some ISPs take action to block the sites right away. Others do it during weekly maintenance.

For example, bar-ladies was blocked recently by the ICT.

T.o.T. blocked the site right away, but it was still accessable to people using TT&T.

It could be (possibly) that someone at TT&T doesn't like TRT, and slipped their IP onto the blocked list. :o

Link to comment
Share on other sites

Here's another one explaining why the Democrat should be deregistered.

หัวเรื่อง ข้อกล่าวหาและเหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ควรถูกยุบ

โดย กองโฆษก วันที่ 30.6.2549

ข้อกล่าวหาและเหตุผลยุบพรรคประชาธิปัตย์

ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงโดยชัดแจ้งต่อนายทะเบียนว่า พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 ได้กระทำการผิดกฎหมายมาตรา 66 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2541 ดังนี้

1. เมื่อระหว่างเดือนมกราคม 2549 ถึงเดือนมีนาคม 2549 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรรมการบริหารพรรคบางคน และสมาชิกพรรค ได้เข้าร่วมขบวนการกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อล้มล้างรัฐบาลไล่นายกรัฐมนตรีให้ออกจากตำแหน่ง ที่สวนลุมพินี หน้าทำเนียบรัฐบาล ลานพระบรมรูปทรงม้า ท้องสนามหลวง และสถานที่อื่นๆ โดยได้ประกาศขอใช้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ขอนายกพระราชทาน ซึ่งมิใช่วิธีการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 201 พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร์เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติกฏหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นบทบัญญัติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จำเป็นต้องมีสภาผู้แทนราษฎรอันมาจากการเลือกตั้งของปวงชนชาวไทย

2. ในระหว่างมีประกาศใช้พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2549 และให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 พรรคประชาธิปัตย์ โดยหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ได้กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ

ก. มีเจตนาบอยคอต (คว่ำบาตร) การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ส่งสมาชิกพรรคลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยไม่มีเหตุอันควรและมีเจตนาทุจริต เป็นปฏิปักษ์มีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองตามกฏหมายและก่อนหน้านี้ก็เป็นพรรคที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันดับ 2 หัวหน้าพรรคมีตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับเงินอุดหนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกๆ ปี เพื่อใช้ในการรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ข. กระทำการขัดขวางการสมัครรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสมาชิกพรรคอื่นๆ ที่จังหวัดสงขลา โดยมีกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ ได้ระดมประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมชุมนุมประท้วงและข่มขู่ขัดขวาง ไม่ให้สมาชิกพรรคการเมืองอื่นๆ ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคการเมืองนั้นที่จังหวัดสงขลา รายละเอียดปรากฏตามภาพข่าวหนังสือพิมพ์และเทปบันทึกภาพ (VCD)

ค. ปลุกระดมมวลชนโดยใช้คำว่า “ระบอบทักษิณ” ซึ่งไม่มีอยู่ในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยความเป็นจริง พตท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับใช้กลอุบาย ตั้งฉายาเพื่อให้ประชาชนเป็นศัตรูกับ พตท.ทักษิณ ชินวัตร ใส่ร้ายด้วยความเท็จ จูงใจรณณรงค์ให้ประชาชนไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือหากไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้ลงในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน เพื่อจูงใจประชาชนที่มีหน้าที่ต้องไปเลือกตั้งตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ โดยความคิดอิสระที่จะเลือกผู้ใดเป็นผู้แทนของตนเอง โดยมีเจตนาเพื่อให้ผู้สมัครเลือกตั้งในเขตนั้นๆ ได้คะแนนต่ำ หรือได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หากมีผู้สมัครเพียงพรรคเดียว

3. พรรคประชาธิปัตย์โดยหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคยังได้ กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฏหมาย หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยในระหว่างที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 ได้กระทำการขัดต่อกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 44(5) ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด กล่าวคือ ได้ใส่ร้ายด้วยความเท็จว่า พตท.ทักษิณ ชินวัตร โกงทั้งโครต ประเทศชาติสูญเสียอย่างใหญ่หลวง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ปกครองประเทศโดย “ระบอบทักษิณ” ซึ่งความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีพฤติกรรมดังที่กล่าวหาและไม่ได้จัดตั้งระบอบทักษิณ แต่ได้บริหารและปกครองประเทศโดยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ

4. พรรคประชาธิปัตย์กระทำการขัดต่อกฏหมาย ดังนี้

ก. เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้สมคบกับนายไทกร พลสุวรรณ สมาชิกพรรคประชาธิ

ปัตย์กระทำ การฉ้อฉล หลอกลวง เพื่อให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ โดย

ว่าจ้างหัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า ให้ใส่ร้ายกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้จ้าง

พรรคอื่นลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความเท็จ รายละเอียดปรากฏตามเทปบันทึก

ภาพ (VCD) คำถอดเทป

ข. เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้สมคบกับนายไทกร พลสุวรรณ กระทำการฉ้อฉล หลอกลวงเพื่อให้ได้มาซึ่ง หลักฐานอันเป็นเท็จ โดยได้ว่าจ้างหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย และสมาชิกพรรคใส่ร้าย กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ว่ากระทำการว่าจ้างพรรคอื่นสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความเท็จ

ค. เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้สมคบกับนายทักษะนัย กี่สุ้น ผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้

แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ (นายสาทิต วงศ์หนองเตย) นำสมาชิกพรรค

ประชาธิไตยก้าวหน้า ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัด

ตรัง ณ ที่สถานที่ กรรมการการเลือกตั้งจัดให้ โดยนายทักษะ กี่สุ้น ซึ่งเป็นผู้ช่วย

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้จ่ายเงินค่าสมัครให้สมาชิก พรรค

ประชาธิปไตยก้าวหน้า จำนวน 3 คนๆ ละ 10,000 บาท ต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรรมการ

การเลือกตั้ง และประชาชนทั่วไป หลังจากนั้น นายทักษะนัย กี่สุ้น ได้นำผู้สมัครทั้ง 3

คน มาพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ กรุงเทพมหานคร

เพื่อใส่ร้ายด้วยความเท็จว่ากรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นผู้ว่าจ้างลงสมัคร

สมาชิกผู้แทนราษฎรแต่ความจริง นายทักษะนัย กี่สุ้น เป็นผู้ว่าจ้าง ปัจจุบันกรรมการ

การเลือกตั้งได้ดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิด และยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

เพื่อยุบพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าแล้ว

ง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้หน่วงเหนี่ยวกักขังนางฐัติมา ภาวะลี ให้ใส่ร้ายด้วย

ความเท็จกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ว่าได้ว่าจ้างสมาชิกพรรคแผ่นดินไทย ลง

สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต่อมานางฐัติมา ภาวะลี ได้ชี้แจงความ

จริงให้สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปทราบ ถึงการถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง และไปแจ้ง

ความต่อพนักงานตำรวจที่กองปราบปราม

จากข้อเท็จจริงข้างต้นการกระทำของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหาพรรค

และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มต้นจากการเข้าร่วมกับขบวนการพันธมิตรกู้ชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างรัฐบาล และประกาศขอใช้ มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขอนายกพระราชทานตลอดจนได้บอยคอต (คว่ำบาตร) ไม่ส่งสมาชิกพรรคลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขัดขวางการบงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอื่น ปลุกระดมมวลชนโดยใช้คำว่า “ระบอบทักษิณ” รณรงค์ไม่ให้ประชาชนไปลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคใดไม่ให้ผู้สมัครพรรคอื่นได้คะแนน 20 เปอร์เซ็นต์ ใส่ร้ายด้วยความเท็จพรรคอื่นว่ากระทำการผิดกฏหมายเพื่อให้ถูกยุบพรรค ซึ่งเป็นเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กระทำโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ประเทศ มุ่งหวังเพียงเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย กระทำการขัดต่อกฏหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

1. เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ปฏิบัติตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นหนังสือ เรื่อง ขอการสนับสนุนญัตติของเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอญัตติผ่านสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสารในร่างดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ ในขณะนั้น นายอภิสิทธิ์ มีฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้านเสียงข้างน้อยการกระทำเช่นนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าข่ายกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่เหมาะสมตามหลักการทางรัฐสภา

2. ไม่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2549 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 เมษายน 2549 แล้วนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนไว้ในรายการถึงลูกถึงคน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ระบุข้อความตอนหนึ่งยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะลงสมัครรับเลือกตั้งแน่นอน ทว่า ต่อมาพรรคประชาธิปัตย์กลับเปลี่ยนท่าที สุดท้ายจึงตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะก่อตั้งมาเป็นเวลายาวนาน และได้ดำรงอยู่ด้วยทุนสนับสนุนโดยรัฐในส่วนหนึ่ง ย่อมทราบดีว่าการเลือกตั้งเป็นหน้าที่หลักของพรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย การยกอ้างเหตุผลนานาของพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่สมเหตุสมผล ปราศจากน้ำหนักเพียงพอที่รับฟังได้ การกระทำเช่นว่านี้ เท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 66(2)

3. กระทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง

ตามหลักเมื่อมีพระราชกฤษฎีกา ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว พรรคการเมือง ผู้สมัครรับการเลือกตั้ง ตลอดจนผู้ใด จักต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2540 อย่างเคร่งคัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามมาตรา 44 ว่าด้วยการห้ามกระทำการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยมิชอบกระนั้น พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการบริหารพรรค กลับดำเนินการต่างๆ ทั้งใส่ร้ายด้วยความเท็จ และจูงใจให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย ถึงขนาดจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และร่วมกับเวทีพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย อภิปรายโจมตี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย เป็นการเฉพาะเจาะจง (จนผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ถูกดำเนินคดีอาญาหลายคดีในหลายท้องที่ เช่น ถูกแจ้งความที่กองปราบปราม ที่สถานีตำรวจภูธร ตำบลภูพิงค์ราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ฯลฯ ซึ่งรวมถึงกรณีร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน) เข้าข่ายความผิดกระทำการอันอาจขัดต่อกฏหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 66

4. ไม่ปฏิบัติตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังได้เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 7 ในการกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีแทน พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งการกระทำข้างต้น เป็นการกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ขัดแย้งเจตนารมณ์ การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ

Link to comment
Share on other sites

This thread isn't really about what is being posted on the TRT website, but that it is blocked for some users. Please do not post any further Thai language articles without translation as it is against forum rules.

Please no more off topic postings quoting the contents of the site.

Link to comment
Share on other sites

I used each of the links noted in the posts above and was able to access the site without problem.

Same here... everything OK.

I'm accessing the site from work, using IE-6 via an IPStar connection.

Link to comment
Share on other sites

Clicking the link with index.asp included, everything works fine from here ... and I am on true. However, it is true cable i'm on --- seems that it is the phoneline provider rater than the ISP that is the culprit?

Link to comment
Share on other sites

Create an account or sign in to comment

You need to be a member in order to leave a comment

Create an account

Sign up for a new account in our community. It's easy!

Register a new account

Sign in

Already have an account? Sign in here.

Sign In Now
  • Recently Browsing   0 members

    • No registered users viewing this page.



×
×
  • Create New...